วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553
เมื่อมนต์เสียงแคนมาผสมกับความอมตะของบีโธเฟน กลายเป็น "ม่วนซื่นบีโธเฟน"
วันนี้ขอนำเสนอ การผสมผสานครั้งยิ่งใหญ่ของบทเพลง 2 ลุ่มแม่น้ำค่ะ ระหว่าง อาจารย์สมบัติ แห่งลุ่มแม่น้ำโขง ประเทศไทย และ Beethoven แห่งลุ่มแม่น้ำไรน์ประเทศเยอรมนี ในบทเพลงนี้จะใช้ 2 บทเพลงที่คุ้นหูของบีโทเฟน คือ ซิมโฟนีหมายเลข 5 และ Fur Elise มาผสมผสานกับทำนองหมอลำ จากแคนของอาจารย์สมบัติ ได้อย่างลงตัว เป็นเพลงที่เพราะและมีเอกลักษณ์ เป็นสีสันใหม่ของวงการดนตรีของประเทศไทยค่ะ
ซิมโฟนีหมายเลข 5 ในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์ (Symphony No. 5 in C Minor) ของเบโทเฟน เป็นผลงานที่เขาประพันธ์ขึ้นในช่วง ค.ศ. 1804-1808 ในแคตตาล็อกผลงานของเบโธเฟนระบุเลขโอปุส 67 (Opus 67) ซิมโฟนีบทนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงานดนตรีคลาสสิกที่ได้รับความนิยมสูงสุด และรู้จักกันแพร่หลายที่สุด รวมทั้งถูกนำออกแสดงและได้รับการบันทึกเสียงมากที่สุดบทหนึ่ง
ซิมโฟนีบทนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว หลังจากนำออกแสดงครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1808 ในเวลานั้น เอินสท์ เธโอดอร์ อมาดิอุส ฮอฟมันน์ (Ernst Theodor Amadeus Hoffmann) ได้บรรยายเอาไว้ว่า "นับเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่สุดแห่งยุค"
บทเพลงนี้ขึ้นต้นด้วยตัวโน้ตหลักเพียง 4 พยางค์
เนื่องจากโน้ตหลัก 4 ตัวของเพลงคล้ายกับรหัสมอร์ส (คือ จุด จุด จุด ขีด) ที่ตรงกับอักษรโรมัน V โน้ตหลักนี้จึงใช้เป็นเครื่องหมายของคำว่า "victory" (ชัยชนะ) ในพิธีเปิดการออกอากาศสถานีวิทยุบีบีซี (BBC) ของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นความคิดของวิลเลียม สตีเฟนสัน (William Stephenson)
การบรรเลงรอบปฐมฤกษ์
ซิมโฟนีบทนี้ออกบรรเลงเป็นรอบแรก เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1808 โดยเบโธเฟนเป็นผู้ควบคุมวงด้วยตนเอง โอกาสดังกล่าวถือว่าเป็นคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ประกอบด้วยผลงานใหม่ทั้งหมดของเบโธเฟน โดยได้แสดงที่โรงละครในกรุงเวียนนา และมีรายการแสดงดังนี้
ซิมโฟนีหมายเลข 6 (Symphony No. 6)
Aria: "Ah, perfido", Op. 65
The Gloria movement of the Mass in C Major
Piano Concerto No. 4
-- พักการแสดง --
ซิมโฟนีหมายเลข 5
Sanctus and Benedictus movements of the C Major Mass
Choral Fantasy
การแสดงดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง
สำหรับซิมโฟนีหมายเลข 5 และหมายเลข 6 ซึ่งประพันธ์ขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ปรากฏในโปรแกรมคอนเสิร์ตเป็นหมายเลข 6 และ 5 ตามลำดับ แต่ในปัจจุบันมีการลำดับหมายเลขสลับกันตามลำดับการพิมพ์
เบโธเฟนอุทิศซิมโฟนีบทนี้ให้แก่ผู้อุปถัมภ์สองคน ได้แก่ เจ้าชาย F.J. von Lobkowitz และ เคาน์ Andreas Razumovsky คำอุทิศนั้นปรากฏในการพิมพ์ครั้งแรก เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1809
รายละเอียดของแต่ละท่อน
ซิมโฟนีบทนี้มีด้วยกัน 4 ท่อน หรือมูฟเมนต์ ดังนี้
I. Allegro con brio
II. Andante con moto
III. Scherzo, Allegro
IV. Allegro
สามท่อนแรกนั้นเรียบเรียงสำหรับเครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้แก่ ฟลู้ต 2 เลา, โอโบ 2 เลา, บีแฟลต คลาริเน็ต 2 เลา , บาสซูน 2 เลา, ฮอร์น 2 คัน, ทรัมเป็ต 2 คัน, กลองทิมปะนี และเครื่องสาย ได้แก่ ไวโอลิน 1 และไวโอลิน 2, วิโอลา, เชลโล และดับเบิลเบส ส่วนท่อนสุดท้ายได้เพิ่มปิคโคโล, คอนทราบาสซูนอย่างละเลา และทรอมโบน 3 คัน (อัลโต,เทเนอร์ และเบส)
การแสดงดนตรีทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
การใช้บันไดเสียง
ซิมโฟนีหมายเลข 5 อยู่บันไดเสียง ซีไมเนอร์ (C minor) มีนักวิจารณ์ให้ความเห็นว่าสำหรับเบโธเฟนแล้ว บันไดเสียงนี้เป็นตัวแทนของ “น้ำเสียงแบบวีรบุรุษ และมีความเกรี้ยวกราด” และเขาใช้บันไดเสียงนี้สำหรับงานที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ หรือ สงวนไว้สำหรับดนตรีที่แสดงออกทางอารมณ์สูงสุดของเขา
ผลงานอื่น ๆ ของเบโธเฟนในบันไดเสียง ซีไมเนอร์ ที่ให้ภาพในลักษณะดังกล่าว มีดังนี้
"Piano Sonata No. 5", Opus 10 no. 1 (1795-8)
"Piano Sonata No. 8", Opus 13, "Pathetique" (1798)
"Piano Concerto No. 3" no. 3 (1800)
"String Quartet No. 4", Opus 18, no. 4 (1800)
"Sonata in C minor for Violin and Piano", Op. 30, no. 2 (1802)
"Symphony No. 3"; second "Funeral March" movement (1803)
"Coriolanus" overture, Opus 62 (1807)
"Piano Sonata No. 32", Op. 111 (1822)
ซิมโฟนีหมายเลข 5 กับผลงานในรูปแบบอื่น
เสียงโน้ต 4 พยางค์ จากมูฟเมนต์ที่ 1 ของซิมโฟนีหมายเลข 5 ถูกนำมาใช้ซ้ำหลายครั้งในดนตรียุคหลัง เช่น
- ถูกนำมาใช้เป็นเพลงเปิดของสถานีวิทยุบีบีซี ของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
- เพลง A Fifth of Beethoven เป็นซิมโฟนีหมายเลข 5 ในจังหวะดิสโก โดย Walter Murphy เมื่อ ค.ศ. 1976 และเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Saturday Night Fever (1977)
- เพลง Roll Over Beethoven โดย Chucker Berry เมื่อ ค.ศ. 1956 และนำมาขับร้องใหม่โดยวง The Beatles, Status Quo และวง ELO - Electic Light Oechestra (ค.ศ. 1973))
- นักกีตาร์ Yngwie Malmsteen โซโล่กีตาร์ ซิมโฟนีหมายเลข 5 แบบเฮฟวี่เมทัล
- ภาพยนตร์ Beethoven(1992) หนังครอบครัวเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อว่าเบโธเฟน โดยใช้เสียงโน้ตท่อนนี้ แทนตัวเบโธเฟน
- ภาพยนตร์ V for Vendetta (2005) หนังและหนังสือเกี่ยวกับการต่อสู้ขับไล่ทรราช ใช้เสียงโน้ตท่อนนี้ สื่อถึงการต่อสู้และชัยชนะ โดย V (มาจากเลข 5 และหมายถึง Victory) เป็นชื่อตัวละครเอก
- เพลง Confession ของวงดนตรีคลาสสิกประยุกต์ (String Trio) ที่มีชื่อว่า VieTrio เป็นการเอาทำนองหลักของเพลงนี้ ไปผสมผสานกับดนตรีร็อก และมีการเล่นไวโอลินไฟฟ้าในเทคนิกแบบกีตาร์ไฟฟ้าในตอนท้ายของเพลงด้วย
ส่วนอีกเพลง ชื่อ FUR ELISE มาจากภาษาเยอรมัน แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า FOR ELISE หรือเรียกง่ายๆคือเป็นเพลงที่ Ludwig Van Beethoven ประพันธ์ออกมาเพื่อ "Elise" นั่นเอง เพลงนี้เป็นเพลงที่แสดงถึงความรัก ความงดงาม ถ้าให้แสดงความเห็นคือบรรยายถึงสตรีผู้นี้ เริ่มต้นเพลงด้วยตัวโน้ตที่ค่อนข้างซ้ำ เหมือนจะก้าวไปข้างหน้าแต่กลับมาสู่ท่วงทำนองเดิม น่าจะคล้ายความประหม่า ที่มีความสุขในยามพบ ในส่วนของท่อนกลาง จะฟังดูน่ารักๆ ใสๆ เหมือนกับว่าเรากำลังตกอยู่ในความฝัน เราเดินเล่นกับเธอที่ทุ่งหญ้า ดอกไม้บานเต็มไปหมด เรารู้สึกมีความสุขไม่อยากตื่นจะขึ้นมาจากความฝันนั้นเลยแต่เราก็ทำไม่ได้ และแล้ว เราก็ต้องตื่น (ย้อนกลับมาในท่อนแรกต่อ) ความฝันสิ้นสุดลง เทอหายไปแล้ว แต่ในใจเรายังคงรู้สึกพร่ำเพ้อ เรียกหาเธออยู่ตลอดเวลา
ท่อนก่อนจบน่าจะเป็นท่อนที่ค่อนข้างลุ้นระทึก ใช้ตัวโน้ตมือซ้ายรัวๆ มือขวาเป็นทางเดินคอร์ดซึ่งซ่อนเร้นทำนองหลักไว้ น่าจะเหมือนกับการพูดอย่างซ่อนเร้นความนัย ด้วยใจที่เต้นอย่างสั่นรัว
อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะบอกรักใครสักคนก้อได้นะ ^^
เห็นไหมคะ แค่อ่านประวัติก็น่าฟังแล้ว ไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น