คือเราเป็นคนชอบดูโขนน่ะ...เลยอยากจะนำเสนอตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ สักนิดหนึ่ง
ต้องขอบอกว่า หลังจากอ่านจบ 2 รอบ แล้วเราคิดว่า รามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีที่สนุกมากๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ^^ แถมเรายังนำกลอนในเรื่องมาเป็นต้นแบบในการแต่งกลอนของเราเองด้วยนะ
ทศกัณฐ์ (แปลว่า "ผู้มีสิบหน้า") หรือท้าวราพณ์ (ภาษาเตลูกู เรียก ราวัน) เป็นตัวละครเอกตัวหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ บุตรของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎา เจ้าครองกรุงลงกา เดิมเป็นยักษ์ชื่อ "นนทก" กลับชาติมาเกิด ซึ่งนนทกมีหน้าที่ล้างเท้าให้กับเทวดาทั้งหลาย เทวดาเหล่านั้นก็มักจะลูบหัวนนทกจนล้าน นนทกจึงเกิดความแค้น เลยไปขอนิ้วเพชรจากพระอิศวร แล้วทำร้ายพวกเทวดาที่มาลูบหัวตน นนทกได้เข่นฆ่าเหล่าเทวดาตายนับไม่ถ้วน ทำให้พระอิศวรต้องร้องขอพระนารายณ์ให้มาช่วยปราบนนทกให้
พระนารายณ์จัดการกับนนทก โดยการจำแลงองค์เป็นนางเทพอัปสรดักอยู่ตรงทางที่นนทกเดินผ่านเป็นประจำ ฝ่ายยักษ์นนทกเมื่อได้เห็นนางจำแลงจึงเกิดความหลงและเข้าไปเกี้ยวพาราสี นางจำแลงแสร้งทำยินดี โดยยื่นข้อเสนอว่าให้นนทกร่ายรำตามนางทุกท่าแล้วจะยินดีผูกมิตรด้วย และแล้วยักษ์นนทกก็ทำตามนาง โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นเล่ห์กล จนกระทั่งถึงท่านาคาม้วนหางนิ้วเพชรของนนทกชี้ไปที่ขาของตัวเอง ขานนทกก็หักลงทันใด นนทกล้มลง ทันใดนั้น นางแปลงกลายเป็นพระนารายณ์เหยียบอกนนทกไว้
ก่อนตายนนทกอ้างว่าพระนารายณ์มีหลายมือตนสู้ไม่ได้ พระนารายณ์จึงให้คำสัตย์ว่า ให้นนทกไปเกิดใหม่ มีสิบเศียรสิบพักตร์ยี่สิบมือ เหาะเหินเดินอากาศได้ มีอาวุธนานาชนิดครบทุกมือ ส่วนพระนารายณ์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มีสองมือและตามไปฆ่านนทกให้ได้ นนทกพอวิญญาณหลุดจากร่างก็ไปจุติในครรภ์พระนางรัชดา มเหสีท้าวลัสเตียน เจ้ากรุงลงกา เกิดมาเป็นโอรสนามว่า ทศกัณฐ์
ทศกัณฐ์ เป็นยักษ์รูปงาม มีสิบหน้า ยี่สิบกร ทรงมงกุฏชัย ลักษณะปากแสยะ ตาโพลง กายปกติสีเขียว แต่มีนิสัยเจ้าชู้ ตอนที่เกี้ยวพาราสีนางมณโฑได้เนรมิตร่างตนเองให้เป็นสีทอง
อาวุธของทศกัณฐ์มีดังกลอนต่อไปนี้
กระทืบบาทผาดโผนโจนร้อง กึกก้องฟากฟ้าอึงอุด
มือหนึ่งจับศรฤทธิรุทร มือสองนั้นยุดพระขรรค์ชัย
มือสามจับจักรกวัดแกว่ง มือสี่จับพระแสงหอกใหญ่
มือห้าจับตรีแกว่งไกว มือหกฉวยได้คฑาธร
มือเจ็ดนั้นจับง้าวง่า มือแปดคว้าได้พะเนินขอน
มือเก้ากุมเอาโตมร กรสิบนั้นหยิบเกาทัณฑ์
ไม่มีใครฆ่าทศกัณฐ์ให้ตายได้ เพราะได้ถอดดวงใจใส่กล่อง ฝากไว้กับอาจารย์ คือพระฤๅษีโคบุตร ด้วยความที่มีนิสัยเจ้าชู้ ใด้ลักพาตัวนางสีดาผู้มีรูปโฉมที่งดงาม ไปจากพระรามที่เป็นพระสวามี เป็นเหตุให้เกิดศึกสงครามระหว่าง ฝ่ายพระราม กับ ฝ่ายทศกัณฐ์ จนญาติมิตรของฝ่ายทศกัณฐ์ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สุดท้ายทศกัณฐ์เองก็ต้องตายเพราะนิสัยเจ้าชู้และความไม่ยอมแพ้ของตน ซึ่งก่อนตาย ทศกัณฐ์ได้รู้ตัวแล้วว่าต้องตายแน่ แต่ด้วยขัตติยมานะจึงต้องต่อสู้กับพระราม จึงแต่งองค์อย่างงดงาม และถูกศรพรหมมาศของพระรามฆ่าตาย ก่อนตาย ทศกัณฐ์ได้เห็นภาพว่า แท้ที่จริงแล้วพระรามคือ พระนารายณ์อวตาร และได้สั่งเสียกับน้องชายตัวเอง คือ พิเภก ด้วยใบหน้าทั้งสิบ ซึ่งเรียกว่า "ทศกัณฐ์สอนน้อง" และภายหลังพิเภกก็ได้ครองกรุงลงกาสืบต่อแทน
ทศกัณฐ์ เป็นหนึ่งในยักษ์ทวารบาลสองตน ที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามคู่กับสหัสเดชะ เพราะถือว่าเป็น ยักษ์ที่มีฤทธิ์มากเท่าเทียมกัน
มีการวิเคราะห์กันว่า ตัวละครอย่าง ทศกัณฐ์ หรือบรรดายักษ์ในเรื่อง เป็นตัวแทนของชาวทัสยุ หรือ ดารวิเดียน ซึ่งเป็นชนชาวผิวดำที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียในสมัยโบราณ และพระราม หรือ พลพรรคลิง เป็นตัวแทนของชาวอารยัน หรือชาวผิวขาวที่อยู่ทางตอนเหนือ และชาวอารยันก็ได้ทำสงครามชนะชาวทัสยุ ซึ่งต่อมาก็ได้มีการแต่งวรรณกรรมเรื่อง รามเกียรติ์ นี้ขึ้นมาเพื่อยกย่องพวกตนเอง
ลูกและเมียของทศกัณฐ์
ทศกัณฐ์เจ้ายักษ์ร้ายในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นยักษ์เจ้าชู้ เห็นผู้หญิงสวยไม่ได้ จะต้องหลงรักและแย่งชิงมาเป็นของตน ทำให้ทศกัณฐ์มีเมียและลูกมากมาย ดังนี้
๑.นางกาลอัคคี เป็นธิดาของท้าวกาลนาคแห่งเมืองบาดาล ในตอนแรก ท้าวกาลนาคคิดจะยกนางกาลอัคคีให้แก่ท้าวลัสเตียนซึ่งเป็นบิดาของทศกัณฐ์ แต่ท้าวลัสเตียนเห็นว่าพระองค์เองก็ชรามากแล้ว จึงยกนางกาลอัคคีให้ทศกัณฐ์แทน ซึ่งในเวลาต่อมา นางกาลอัคคีก็มีโอรสกับทศกัณฐ์ คือ บรรลัยกัลป์ เมื่อบรรลัยกัลป์มีอายุได้ ๕ ขวบ ท้าวกาลนาคผู้เป็นตาได้ขอไปเลี้ยงดูที่เมืองบาดาล และได้อาบน้ำว่านศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ตัวของบรรลัยกัลป์มีความลื่น ไม่มีใครสามารถจับได้ และอาวุธก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ จะต้องแฉลบลื่นไปหมด
จนในเวลาต่อมา บรรลัยกัลป์ได้ต่อสู้กับหนุมานเพื่อแก้แค้นให้ทศกัณฐ์ผู้เป็นบิดา หนุมานไม่อาจสังหารบรรลัยกัลป์ได้จึงมาขอคำแนะนำจากฤๅษีทิศไพที่ตั้งอาศรมในแถบนั้น ฤๅษีทิศไพก็บอกใบ้ให้หนุมานรู้ด้วยการโปรยฝุ่นทรายลงบนพื้น หนุมานจึงซัดทรายใส่ตัวบรรลัยกัลป์ ทำให้สามารถจับตัวบรรลัยกัลป์ได้และสังหารบรรลัยกัลป์ได้ในที่สุด
๒.นางมณโฑ เดิมเป็นนางกบ อาศัยอยู่กับพระฤๅษีสี่ตน ในวันหนึ่ง ได้เห็นนางอนงค์นาคี ซึ่งแค้นที่พระฤๅษีมาพูดให้ตนอับอาย พ่นพิษใส่ถังน้ำนม หมายจะให้พระฤๅษีได้ฉันจนตาย นางกบจึงได้กระโดดลงไปในถังน้ำนมและดื่มน้ำนมพิษจนขาดใจตาย เมื่อพระฤๅษีมาเห็นก็นึกตำหนิที่นางกบตะกละดื่มนมจนตาย จึงได้ชุบชีวิตนางกบขึ้นมาเพื่อต่อว่า แต่นางกบก็เล่าความจริงให้ฟัง พระฤๅษีจึงซึ้งในจิตใจของนางกบและชุบนางกบให้เป็นนางงาม ตั้งชื่อว่า นางมณโฑ ก่อนจะนำนางมณโฑไปถวายเป็นข้ารับใช้ให้พระแม่อุมาเทวี ซึ่งหลังจากได้เป็นมเหสีของทศกัณฐ์แล้ว นางมณโฑก็มีโอรสและธิดากับทศกัณฐ์ ดังนี้
๑.)อินทรชิต เดิมชื่อรณพักตร์ แต่สามารถรบชนะพระอินทร์ได้ ทศกัณฐ์จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น อินทรชิต แปลว่า ผู้ชนะพระอินทร์ ซึ่งอินทรชิตเคยได้รับพรจากพระพรหมว่า หากอินทรชิตหัวขาดตกถึงพื้น จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ลุกท่วมโลก ต้องนำพานแว่นฟ้าของพระองค์ไปรองรับเท่านั้น จึงจะไม่เกิดไฟบรรลัยกัลป์ ซึ่งในเวลาต่อมา พระลักษมณ์ได้เป็นผู้แผลงศรไปตัดเศียรของอินทรชิตขาด และองคตซึ่งเป็นพี่ชายต่างบิดาของอินทรชิตได้เป็นผู้ไปนำพานแว่นฟ้ามารองรับเศียรของ
อินทรชิตไว้
๒.)นางสีดา เมื่อท้าวทศรถแห่งกรุงอโยธยาได้ทำพิธีขอโอรสจากสวรรค์ พระนารายณ์ พระลักษมี บัลลังก์อนันตนาคราช สังข์ จักรแก้ว และคทาวุธได้แบ่งภาคอวตารลงมายังโลกมนุษย์ โดยพระนารายณ์อวตารเป็นพระราม จักรแก้ว อวตารเป็นพระพรต สังข์และบัลลังก์อนันตนาคราชอวตารเป็นพระลักษมณ์ และคทาวุธอวตารเป็นพระสัตรุด ส่วนพระลักษมี อวตารเป็นธิดาของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ แต่เมื่อแรกเกิดร้องว่า "ผลาญราพณ์" ๓ ครั้ง และเมื่อพิเภกทำนายดวงชะตาก็พบว่าเป็นกาลกิณีกับกรุงลงกา ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำธิดาน้อยใส่ผอบลอยทิ้งน้ำไป ต่อมา ฤๅษีชนก อดีตกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลาได้พบผอบเข้า จึงนำไปเลี้ยงดูเป็นธิดา แต่เมื่อมีธิดาก็ไม่มีสมาธิบำเพ็ญเพียร จึงนำผอบไปฝังดินเพื่อฝากให้เหล่าเทพารักษ์และนางไม้ช่วยดูแล จนเวลาต่อมา ฤๅษีชนกคิดจะกลับไปครองราชย์ดังเดิม จึงได้ให้ นายโสม บ่าวรับใช้ไปนำวัวและคันไถมาเพื่อไถดินเอาผอบขึ้นมา เมื่อนำผอบขึ้นมาได้ก็พบว่า พระธิดาโตเป็นสาวแล้ว จึงตั้งชื่อให้ว่า สีดา แปลว่า รอยไถ ซึ่งในเวลาต่อมา นางสีดาก็ได้อภิเษกสมรสกับพระราม ก่อนจะถูกทศกัณฐ์ซึ่งเป็นบิดาชิงตัวไปยังกรุงลงกา จึงเกิดสงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ขึ้น
๓.)ไพนาสุริยวงศ์ ในตอนที่ทศกัณฐ์สิ้นชีพนั้น นางมณโฑตั้งครรภ์ได้ ๑ เดือน และได้ประสูติพระโอรส ซึ่งท้าวทศคีรีวงศ์ (พิเภก) คิดว่าเป็นโอรสของตนจึงตั้งชื่อว่า ไพนาสุริยวงศ์และเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ซึ่งไพนาสุริยวงศ์ก็คิดว่าท้าวทศคีรีวงศ์คือพ่อของตนมาโดยตลอด จนกระทั่งไพนาสุริยวงศ์มีอายุได้ ๑๓ ปี ก็ได้ทราบความจริงจาก วรณีสูร ผู้เป็นพี่เลี้ยง จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก ท้าวจักรวรรดิ แห่งเมืองมลิวัน สหายของทศกัณฐ์ ท้าวจักรวรรดิจึงยกทัพมาบุกกรุงลงกา และจับตัวท้าวทศคีรีวงศ์ไปขังคุกได้ ก่อนจะแต่งตั้งไพนาสุริยวงศ์เป็น ท้าวทศพิน กษัตริย์องค์ใหม่แห่งกรุงลงกา
เมื่อพระรามทราบว่าท้าวทศคีรีวงศ์ถูกจับไปขังคุก จึงได้มีบัญชาให้พระพรต และพระสัตรุด พระอนุชาทั้งสองยกทัพไปช่วยท้าวทศคีรีวงศ์ และท้าวทศพินก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พระพรตจึงสั่งสำเร็จโทษท้าวทศพินและวรณีสูรทันที ก่อนจะยกทัพไปปราบท้าวจักรวรรดิต่อไป
๓.นางปลา ซึ่งทศกัณฐ์ได้พบรักกับนางปลาตัวหนึ่งจนเกิดเป็นธิดาคือ นางสุพรรณมัจฉา
ในคราวที่พระรามคุมพลทหารวานรให้นำก้อนหินถมถนนเพื่อข้ามไปยังกรุงลงกา ทศกัณฐ์ได้สั่งให้นางสุพรรณมัจฉา นำบริวารปลาคาบก้อนหินไปทิ้ง หนุมานจึงลงไปตรวจสอบดู พบนางสุพรรณมัจฉาเข้าก็หลงรัก จนได้นางเป็นเมีย ต่อมา นางสุพรรณมัจฉาก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายที่มีกายเป็นวานรขาวแบบหนุมาน แต่มีหางเป็นปลาเหมือนแม่ ตั้งชื่อให้ว่า มัจฉานุ ซึ่งนางสุพรรณมัจฉาเกรงว่าทศกัณฐ์อาจจะลงโทษตนถึงตายได้หากรู้ว่าไปมีลูกกับศัตรู จึงจำต้องทิ้งมัจฉานุเอาไว้บนเกาะ จนในเวลาต่อมา ไมยราพ แห่งเมืองบาดาลมาพบเข้า จึงนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
๔.นางช้าง ทศกัณฐ์ไปพบรักกับนางช้างตัวหนึ่งเข้า ซึ่งในเวลาต่อมา นางช้างก็ให้กำเนิดโอรสฝาแฝด คือ ทศคีรีวัน และทศคีรีธร
ต่อมา ท้าวอัชกรรณมารา แห่งเมืองดุรัม สหายของทศกัณฐ์ซึ่งไม่มีบุตร ได้ขอทศคีรีวันและทศคีรีธรไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อทั้งสองพี่น้องโตเป็นหนุ่ม ก็กลับมาเยี่ยมทศกัณฐ์ผู้เป็นบิดา และได้ช่วยทศกัณฐ์ทำศึกกับพระราม และได้ถูกพระลักษมณ์สังหารทั้งคู่
๕.นางสนมพันตน ซึ่งทศกัณฐ์มีโอรสกับนางสนมพันตนคือ สหัสกุมาร ซึ่งเป็นโอรสแฝดพันตน โดยทศกัณฐ์ได้มีบัญชาให้สหัสกุมารคอยเฝ้าสวนขวัญอันเป็นที่ประทับของนางสีดาให้ดี จนในเวลาต่อมา หนุมานได้รับบัญชาจากพระรามให้นำแหวนมาถวายให้นางสีดา ก่อนกลับ หนุมานคิดอยากลองกำลังพวกยักษ์ จึงทำลายสวนขวัญจนราบคาบ สหัสกุมารจึงออกมาต่อสู้ แต่ก็ต้องถูกหนุมานสังหารสิ้นชีพทั้งพันตน
๖.นางสนมสิบตน ทศกัณฐ์มีโอรสกับนางสนมสิบตนคือ สิบรถ ซึ่งเป็นโอรสแฝดสิบตน ตั้งแต่ผมอ่านมา ยังไม่เคยเจอฉบับไหนเลยที่มีบทบาทของสิบรถ
ด้วยความที่ ทศกัณฐ์ มีเมียมากมายเช่นนี้ จึงเป็นทีมาของสำนวนที่ว่า "เจ้าชู้ยักษ์" นั่นเอง ^^
ที่มา : http://dek-d.com/board/view.php?id=1665174
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น