วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทวีเวท ศรีณรงค์ จัดหนัก.... 'ดนตรีคลาสสิกไม่ใช่ของสูง'



เขาคือนักเรียนทุนดนตรีคลาสสิกคนแรกในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เป็นคนรุ่นใหม่ที่นำเครื่องดนตรีและท่วงทำนองของดนตรีคลาสสิก มาปรับรูปแบบ ผสมผสานกับจังหวะลีลาของเพลงป๊อบได้อย่างน่าสนใจ ทั้งไม่นานปีมานี้ ก็ริเริ่มก่อตั้งสถาบันดนตรีคลาสสิกของครอบครัวขึ้น เพื่อปลูกฝังความรักและความรู้ให้ผู้ที่สนใจศิลปะการดนตรีได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่

เขาเติบโตขึ้นมาอย่างคนซึ่งภาคภูมิใจในความเป็นนักดนตรีของผู้บังเกิดเกล้า ศรัทธาในความเป็นลูกชาวนาของพ่อที่กล้าหาญบุกบั่นฟันฝ่าทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ กระทั่งในที่สุด พ่อของเขาก็ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งวง Bangkok Symphony Orchestra
และเป็นหนึ่งในบุคลาจารย์ผู้กล่อมเกลาเอกอุบุคคลทางดนตรีหลายต่อหลายคน ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่คนในวงการดนตรีคลาสสิกต่างให้การยอมรับทั้งสิ้น



กระทั่งวันนี้ ชายหนุ่มผู้เป็นทายาทของครูผู้นั้น ได้เติบโตขึ้นเป็นคนหนุ่มที่หลงรักดนตรีคลาสสิกและเชื่อมั่นว่าดนตรีคลาสสิกเป็นสมบัติของโลกใบนี้ เป็นสมบัติของคนทุกคน

และนี่คือเรื่องเล่าหลากมิติจากมุมมองของชายหนุ่มผู้ตัดสินใจก้าวเดินไปตามเสียงเรียกร้องของท่วงทำนองอมตะที่ได้รับการสืบต่อกันมาเนิ่นนานหลายศตวรรษ และจะเป็นท่วงทำนองที่ยังคงอยู่ต่อไปอีกนานนับนาน ตราบเท่าที่ผู้คนมากมายทั่วโลกยังพร้อมเปิดใจสัมผัสมัน

ถ้อยความเหล่านี้ คือเรื่องราวหลากหลายที่ครอบคลุมถึงนิยามความหมายของดนตรี, ความเคารพในวิชาชีพ รวมทั้งจุดแรกเริ่มแห่งแรงบันดาลใจ ทั้งหลายทั้งปวงคือสิ่งที่เขา...ทวีเวท ศรีณรงค์ เต็มใจบอกเล่าอย่างเพลิดเพลิน....

นักดนตรี

"สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักดนตรีทุกคนเลยนะครับ ไม่ใช่แค่นักดนตรีคลาสสิกเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญนั้นคือความอดทน เพราะคุณจะไม่มีวันเก่งได้เลย ถ้าคุณไม่ขยันซ้อมและไม่ขวนขวายหาความรู้ ไม่ว่าคุณจะเก่งยังไงก็ต้องซ้อม คุณจะเจอพรสวรรค์ของตัวเองไม่ได้เลยถ้าหากคุณไม่ซ้อม คุณต้องซ้อมเพื่องัดพรสวรรค์ในตัวออกมาให้ได้

"และสำหรับคนที่ไม่มีพรสวรรค์คุณก็ยิ่งต้องขยัน ต้องมีความอดทน และคุณต้องรักมันจริงๆ คุณต้องให้เวลากับมัน ผมว่า มันก็เปรียบได้กับกีฬา ถ้าหากว่านักกีฬาเขาไม่ได้รักกีฬานั้นจริงๆ เขาจะตื่นขึ้นมาซ้อมตั้งแต่ ตี 4 ตี 5 หรือครับ หลายคนมองว่านักดนตรีเป็นอาชีพที่ยาก เพราะไม่ค่อยมีช่องทาง แต่ผมว่าช่องทางนั้นมีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าคุณจะไปถึงได้ไหม

"ถามว่าการเล่นดนตรีมันเลี้ยงชีวิตได้ไหม ? ได้ครับ แต่มันก็มีหลายรูปแบบ เหมือนกับอาชีพอื่นๆ เช่น ถ้าคุณทำงานกฎหมาย ก็มีนักกฎหมายหลายระดับ ถ้าเป็นนักกฎหมายเมืองไทยก็ได้เงินในระดับของไทย แต่ถ้าเป็นนักกฎหมายระดับเดียวกันแต่อยู่ต่างประเทศก็อาจจะได้เงินเดือนอีกระดับ ไม่ต่างกับนักดนตรีที่เล่นประจำที่ร้านอาหาร หรือที่ผับ แล้วนำไปเทียบกับบอดี้สแลม ก็รายได้ก็คนละระดับ ถามว่าเป็นนักดนตรีเหมือนกันไหม? ก็นักดนตรีเหมือนกัน แต่บอดี้สแลมไส้แห้งไหม? ผมว่าไม่แห้งนะ กรูฟไรเดอร์ก็ไม่แห้งนะ มีเวลาใช้เงินหรือเปล่าก็ไม่รู้? ผมว่าเขาหาเงินได้มากกว่าหลายๆ อาชีพด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ก็ต้องกลับมาดูแล้วว่าคุณอยู่ในระดับไหน? ฝีมือถึงไหมล่ะ? ถ้าคุณอยากเล่นดนตรี คุณก็ต้องกลับมาถามตัวเองก่อนว่าคุณจะทำมันได้ไหม ถ้าทำไม่ได้คุณตายนะ เพราะนี่คืออาชีพของคุณ ถ้าคุณไม่เล่นดนตรี คุณก็อดตาย และนี่คือความคิดที่ต้องมีตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต่างจากนักฟุตบอล แต่ละลีกก็แตกต่างกัน พรีเมียร์ ลีกกับลาลีกา สเปน ก็แตกต่างกัน นักฟุตบอลเหมือนกันแต่คนละระดับชั้น ดนตรีก็เหมือนกัน

"บางคนอาจจะบอกว่านักดนตรีมันพวกหาเช้ากินค่ำ ถูกครับ บอดี้สแลมก็หาเช้ากินค่ำ แต่เขาหาได้วันละแสนกว่าบาท ดังนั้น มันอยู่ที่ว่าคุณทำมันได้ดีขนาดไหน ทุกอาชีพหาเลี้ยงชีพได้ทั้งนั้น คนขายก๋วยเตี่ยวก็ส่งลูกเรียนเมืองนอกได้

"ดังนั้น ถ้าถามว่าอาชีพอะไรที่มั่นคงที่สุด? ผมว่านั่นคืออาชีพที่เรารักและสนุกกับมัน"



คลาสสิก


"ดนตรีคลาสสิกเป็น ‘ของสูง’ เหรอ? ดนตรีเป็นของทุกคนครับ คนที่บอกว่าดนตรีคลาสสิกเป็นของสูงมันคงไม่เกี่ยวกับดนตรีแล้วแต่มันเกี่ยวกับคนที่เล่นและคนที่เสพต่างหาก

"คนที่เสพบางคนไม่ได้รู้ดี แต่รู้แค่ว่าไปดูดนตรีคลาสสิกแล้วต้องแต่งตัวดีๆ คือมันก็ห้ามไม่ได้ ที่ดนตรีคลาสสิกจะทำให้รู้สึกว่าเป็นของสูง เพราะด้วยสถานที่ ด้วยการจัดการ แต่นั่นมันก็ยังไม่เกี่ยวกับดนตรีอยู่ดี ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณไปดูการแสดงดนตรีในศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ นั่นก็ไม่เกี่ยวกับดนตรี เพราะการที่คุณแต่งตัวดีๆ ไปศูนย์วัฒนธรรมฯ นั่นหมายความว่าคุณแต่งตัวเพื่อเคารพต่อสถานที่ซึ่งก็คือศูนย์วัฒนธรรมฯ คุณแต่งตัวเพื่อเคารพสถานที่ ไม่ใช่เพื่อดนตรี

"ถ้ามีการแสดงดนตรีคลาสสิกในสวนลุมฯ แล้วคุณจะใส่กางเกงขาก๊วยไปดู ก็ไม่มีใครว่าอะไร ใครใส่สูทไปดุกางเกงคลาสสิกในสวนลุมฯ ก็บ้าแล้ว สวนลุมฯ ร้อนจะตาย เป็นผมผมก็ไม่ใส่ เวลาไปผมก็ใส่เสื้อโปโล ใส่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืด ชิวๆ แต่ถ้ามันเล่นในสถานที่ที่ต้องให้ความเคารพ มันก็ควรจะมีชุดที่เป็นสากล ผมยืนยันว่าดนตรีเป็นของทุกคน แม้แต่ดนตรีแจ๊ซที่ในหลวงทรงโปรดก็เป็นดนตรีของทาส

"ผมเชื่อว่านักดนตรีคลาสสิกยุคนี้ เขามองไกล แล้วเขาก็เปิดกว้างมากขึ้น เราอยู่ในศตวรรษที่ 21 นะครับ คุณต้องก้าวไปกับ ไม่งั้นเวลาผมเล่นเพลงของโมสาร์ต ผมก็ต้องใส่วิกน่ะสิ แล้วมันตลกไหมล่ะ? ดนตรีมันก็อยู่ของมันอย่างนั้น แต่สังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว"

"วงการเพลงคลาสสิคของทั่วโลกตอนนี้นะครับ ผมขอยกตัวอย่างเกาหลีและจีนก็แล้วกัน เขาเป็นประเทศที่มีความสนใจดนตรีคลาสสิกสูงมาก สูงกว่าอเมริกาอีก แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของดนตรีคลาสสิกคือมัก ไม่ค่อยจะมีคนไปดู แต่ในประเทศเขา รัฐบาลให้การสนับสนุน ส่วนประเทศในแถบยุโรปเขาแก้ปัญหาเรื่องที่ไม่มีคนไปดูด้วยการถ่ายทอดสดการแสดง เพื่อให้เห็นถึงความสวยงามของโปรดักชั่น การแต่งตัว แม้แต่นักร้องโอเปร่าก็สวย ดึงดูดความสนใจ เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 แล้ว เราต้องยอมรับอย่างนึ่งว่าคนเราเวลาเสพศิลปะเราไม่ได้เสพแค่ตัวศิลปะอย่างเดียวหรอก แต่เราเสพคาแรกเตอร์ของคนทำด้วย มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาไงครับที่นักดนตรีที่ทั้งเก่งและหน้าตาดี ต้องขายดี แต่ฝีมือคุณก็ต้องเจ๋งจริงๆ นะ คุณถึงจะอยู่ได้

"และที่สำคัญคุณต้องเข้าใจด้วยว่าคุณจะขายผลงานให้ใคร อย่างผมคงไม่ใช่แนวที่ต้องรอให้ตายก่อนแล้วผู้คนค่อยมานึกถึง ผมอยากจะยู่ในสังคมนี้ ตอนนี้ อยากรู้ว่าคนฟังเขาอยากฟังอะไร ผมอยากเชื่อมต่อกับคนฟัง ถ้าตายไปแล้วก็ทำแบบนี้ ไม่ได้ แล้วผมก็ไม่ใช่อัจฉริยะ อย่าง บาร์ค หรือโมสาร์ท อย่างบาร์คนี่ถือเป็นบิดาของดนตรีคลาสสิก ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่แทบไม่มีใครสนใจงานของเขาเลย แต่เมื่อเขาตายในปีค.ศ. 1750 เขากลายเป็น 'โคตรพ่อโคตรแม่' ของใครต่อใคร รวมทั้ง เดอะ บีทเทิลส์ ที่นำงานของเขามาใช้ ดนตรีของบาร์คเป็นรากของทุกอย่าง ผมพูดง่ายๆ เลยว่า ดนตรีทุกวันนี้ก็คือบาร์ค ถ้าไม่มีบาร์คก็ไม่มีโมสาร์ท

"สำหรับคนที่บอกว่าดนตรีคลาสสิกเป็นของสูง ผมถามหน่อย การที่คุณไปยกย่องเชิดชูมันแบบนั้น คุณรู้จักมันดีแค่ไหน? คุณถามนักดนตรีที่เขาเล่นหรือเปล่า ว่าเขารู้สึกยังไง? คนที่เล่นดนตรีคลาสสิกก็เป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่เขารักดนตรีและเขาอยากจะยึดเป็นอาชีพ เวลาที่เขาพักผ่อน เขาก็พักผ่อนเหมือนกับคุณ ไปเที่ยวทะเล ไปปาร์ตี้ ไปแดนซ์ สนุกเฮฮาที่จะได้เจอคน เจอเพื่อน เจอผู้หญิง นักดนตรีสมัยนี้ก็ไปตามยุคสมัย เพราฉะนั้น ก็อย่าไปยึดติดกับภาพลักษณ์ ขอแค่เปิดใจฟัง ขอแค่คุณชอบ เพราะถ้าชอบคุณก็อยากศึกษาดนตรีให้ลึกซึ้งขึ้นเองแหละ

"นักดนตรีไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่าเพลงที่คุณเล่นมันยาก ดังนั้น อย่าไปโทษดนตรีครับ แต่มันต้องโทษคนที่อยู่ในวงการเพราะคนที่ฟังดนตรีคลาสสิกบางกลุ่มก็ยกตัวเอง ดนตรีคลาสสิกมันอยู่ของมันเฉยๆ นะ แต่เป็นคนนั่นแหละที่ยกมันเอง"



‘ทาง’ ที่ใช่

"ถ้าถามว่าเมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกอยากเล่นไวโอลิน ผมว่ามันคงค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปตั้งแต่เด็กๆ พูดจริงๆ เลยนะ ความรู้สึกแรกสุดที่ผมอยากเป็นนักดนตรีก็คือผมอยากขาดเรียน ตอนเรียนอยู่ถ้ามีทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ ผมต้องขาดเรียนไปหลายอาทิตย์เลยนะ แล้วความรู้สึกตอนนั้น โห มันเท่ว่ะ แม้เวลามาเรียนตามเพื่อนให้ทันนี่เหนื่อยฉิบหาย

"แล้วทุกครั้งที่มีคนถามว่าหายไปไหน? ก็ตอบเขาว่า ‘อ๋อ ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ที่ฮ่องกง ที่อเมริกา…’ แล้วสำหรับเด็กประถม เด็กมัธยม มันดูเท่ไง ได้เงินด้วย ผมก็ตั้งใจซ้อม ขยันซ้อมมาก เพราะอยากไปทัวร์คอนเสิร์ต"

"ครอบครัวผมไม่ใช่คนมีสตางค์ แล้วไม่ใช่เพราะดนตรีหรือครับ ที่ทำให้ผมได้ไปเห็นในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะมีวันได้เห็น ได้ไปในที่ที่หลายคนยังไม่เคยไป ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ทำเนียบขาว ไปเล่นที่คาเนกี้ ฮอลล์ ไปเล่นที่สหประชาชาติ หรือแม้แต่ที่อิมแพคอารีน่าผมก็ยังตื่นเต้น ผมไม่ใช่คนมีตังค์ แต่ไวโอลินพาผมไป ดนตรีพาผมไป



"ไม่ต่างกับที่ไวโอลินพาพ่อที่เป็นลูกชาวนา แต่ไม่อยากเป็นชาวนา ให้มามาสมัครเป็นทหารเรือเพราะเขามีเบี้ยเลี้ยงให้ แล้วก็ถูกจับให้ไปเล่นดนตรี จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งวงบางกอกซิมโฟนี ก่อตั้งวงดนตรีเยาวชน ผลิตนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงอย่างอาจารย์ ทัศนา นาควัชระนี่ก็ลูกศิษย์พ่อผม
ผมชอบไวโอลินมากกว่าเปียโน แม้ว่าตอนเป็นเด็กผมจะเล่นเปียโนไปด้วย แต่ผมว่า ไวโอลินมันคงเป็น ‘ทาง’ ที่ผมไปได้ และนอกจากเสียงร้องของมนุษย์แล้ว ผมว่าไวโอลินคือเครื่องดนตรีที่มีความใกล้เคียงกับเสียงมนุษย์มากที่สุด"
"ทำไมเสียงไวโอลินถึงกินใจ ไพเราะ และบาดความรู้สึก เพราะไม่มีเสียงไหนอีกแล้วที่กินใจได้เท่ากับเสียงมนุษย์ ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่หากคุณเล่นดี เล่นเก่ง จะเป็นเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงมนุษย์ที่สุด แต่ถ้าเล่นไม่ได้ก็เป็นเสียงที่น่ารำคาญที่สุดในโลกเหมือนกัน"







สุดท้ายก่อนจบบทความ อยากบอกว่า พี่เป้ "น่าร้ากกกกกอ้ะ!!!" อิอิ

ที่มา : http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9540000115875

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น