วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

กำเนิด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน หิวๆแบบนี้ กิน "มาม่า" สักถ้วยดีมั้ยคะ? ว่าแล้วก็เลยอยากรู้ว่ามันมีที่มาิอย่างไรกัน คนเขียนเลยไปหาคำตอบมาฝากกันค่ะ ^^






อาหารช่วยชีวิตเวลาหิวของใครหลายคน บางคนนำไปปรับปรุงดัดแปลงเพิ่มความน่าทานตามใจชอบ แต่บางท่านก็ทานเพราะความจำเป็น วันนี้จึงขอพาไปรู้จักกับที่มาที่ไปของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือ "มาม่า" ที่คนไทยชอบเรียกกันจนเคยชิน อาหารสำเร็จรูปสุดสะดวก แทบทุกคนต้องเคยพึ่งพาเวลาไม่สามารถหาอาหารอื่น ๆ ทานได้ หรือบางท่านก็ตั้งใจปรุงใส่นั่นใส่นี่ หรือนำเอาไปผัดไปยำจนออกมาหน้าตาน่ารับประทาน แต่เคยรู้กันไหมว่า เจ้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากไหน
ผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรูปขึ้นมา คือ "อันโด โมโมฟุกุ" ชาวญี่ปุ่น ท่านเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทในกลุ่มนิชชิน ที่มาที่ไปก็มาจากในฤดูหนาวของโอซาก้า มีคนจำนวนมากต่างพากันไปต่อแถวรอกินราเม็นร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นจัด อันโดรู้สึกเห็นใจจึงเกิดไอเดียบางอย่างขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1958 โดยนำเส้นราเมนที่ได้จากการผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ มาทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้นออกไป ทำให้เก็บไว้ได้นาน และแค่เพียงเติมน้ำร้อน เส้นก็จะคืนสภาพเดิม สามารถกินได้ทันที ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะว่าเส้นผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่แล้ว จึงเกิดอาหารที่เรียกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ขึ้น บรรจุอยู่ในชามที่เรียกกันว่า "ด้ง" ซึ่งค่อนข้างใหญ่เทอะทะ ต่อมาในค.ศ. 1971 จึงพัฒนาให้รับประทานได้สะดวกยิ่งขึ้นในรูปแบบถ้วยสำเร็จรูปมีส้อมใส่ไว้ให้เสร็จสรรพ เวลาจะกินน้ำซุปก็สามารถยกถ้วยขึ้นมาซดได้เลย
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีวิธีทำที่สะดวกคือเพียงแค่เติมน้ำร้อนก็ทานได้ทันที และที่สำคัญมีราคาที่ไม่แพง ในปัจจุบันมีหลากหลายรสชาติ แล้วแต่ผู้ผลิตแต่ละเจ้าจะคิดค้นขึ้นมาได้ และถึงแม้ "นิชชิน" จะเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา แต่ "มาม่า" เป็นยี่ห้อแรกที่คนไทยรู้จัก จึงเรียกกันจนติดปาก แม้จะมียี่ห้ออื่นเข้ามา แต่ก็ยังเรียก "มาม่า"จนถึงปัจจุบัน





                                                           


ที่มา : http://blog.eduzones.com/wigi/82273

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น