วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เพลงพระราชนิพนธ์ "ใกล้รุ่ง"



พี่เป้ VieTrio Solo Violin เพลง ใกล้รุ่ง

ใกล้รุ่ง
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ร่วมกับ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร

ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ไกลไกล
ชุ่มชื่นฤทัยหวานใดจะปาน
ฟังเสียงบรรเลงขับเพลงประสาน
จากทิพย์วิมานประทานกล่อมใจ

ใกล้ยามเมื่อแสงทองส่อง
ฉันคอยมองจ้องฟ้าเรืองรำไร
ลมโบกโบยมาหนาวใจ
รอช้าเพียงไรตะวันจะมา

เพลิดเพลินฤทัยฟังไก่ประสานเสียงกัน
ดอกมะลิวัลย์อวลกลิ่นระคนมณฑา
โอ้ในยามนี้เพลินหนักหนาแสงทองนวลผ่องนภา
แสนเพลินอุราสำราญ

หมู่มวลวิหคบินผกมาแต่รังนอน
เฝ้าเชยชิดช้อนลิ้มชมบัวบาน
ยินเสียงบรรเลงดังเพลงขับขาน
สอดคล้องกังวานซาบซ่านจับใจ

เป็นเพลงสุดท้ายที่พระราชนิพนธ์ขณะที่ยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชอนุชา

หลัง จากที่ทรงพระราชนิพนธ์เพลงในจังหวะบลูส์และวอลทซ์มาแล้ว ในเพลงนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงเปลี่ยนมาเป็นแจสที่ฟังสบายๆ และทรงเปลี่ยนมาใช้เพนตาโทนิค เมเจอร์ สเกล (Pentatonic Major Scale) ซึ่งค่อนข้างคุ้นหูคนไทย หากเปรียบกับเพลงไทยเดิมซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของดนตรีไทยสากลในยุคแรกๆแล้ว เพนตาโทนิค เมเจอร์ สเกล สามารถเทียบได้กับเพลงไทยสำเนียงลาว เพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งใช้โน้ตในสเกลนี้อย่างแท้จริงโดยไม่มีสเกลอื่นมาปน เลย แต่ก็มีการใช้เสียงแบบครึ่งเสียงอยู่บ้างเล็กน้อย โดยไม่รู้สึกโดดหรือแปร่งแต่อย่างใด คอร์ดที่ใช้เป็นคอร์ดที่นิยมใช้ในดนตรีแจส เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วจะพบว่าเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งมีลักษณะเสียงเป็นแจ สแบบไทยๆ

ลักษณะพิเศษของเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งนี้จะพบว่า ทรงจัดวางทำนองโดยทรงเรียบเรียงล้อลักษณะของเพลงไทยเดิม โดยเฉพาะลูกขัดในทุกๆท่อน ซึ่งเมื่อคนไทยในเวลานั้นร้องคลอไปกับเพลงจะรู้สึกชินหูได้ง่าย เพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งนี้ แสดงพระอัจฉริยภาพในการทรงนำลักษณะไทยผสานกับแนวทางตะวันตกได้ชัดเจนและลง ตัวมาก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ศ.ดร. ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทย โดยมิได้ทรงกำหนดพระราชประสงค์ ซึ่ง ศ.ดร. ประเสริฐ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าแรงบันดาลใจของเนื้อเพลงนี้มาจากเสียงไก่ขันที่ได้ยินจาก ข้างบ้าน ประกอบกับเพลงนี้จะนำออกบรรเลงในงานสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน 2589

“พอดีตอนนั้นสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ของ ประเทศไทยเขาจะมีงาน แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 กับสมเด็จพระอนุชาฯ จะเสด็จ ผมก็เลยแต่งให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับไก่ บ้านที่อยู่นั้น คุณหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ ท่านก็ต้องการจะส่งเสริมการเลี้ยงไก่ เพื่อให้ไก่ที่อยู่ในกรงสามารถไข่ได้มาก แล้วก็ให้อาหารเต็มที่ ตื่นเช้ามาไก่ขันเต็มไปหมดเลย ก็ได้แรงบันดาลใจจากอันนั้น”

ศ.ดร. ประเสริฐเล่าว่าได้ใช้เวลาแต่งเนื้อร้องเพียง 1 ชั่วโมง แต่ด้วยความไม่ชำนาญในโน้ตสากลจึงแต่งในลักษณะ

“จบ เพลงวรรคหนึ่งก็ประพันธ์เนื้อไปวรรคหนึ่ง พอจบตอนที่สามไม่ทราบว่าที่มีจุด 2 จุดข้างท้ายโน้ตเพลงหมายความว่าให้บรรเลงย้อนต้น และต้องแต่งท่อนที่ 4 เพิ่มเติมอีก จึงลงท้ายเพลงว่า โอ้ในยามนี้เพลินหนักหนา แสงทองนวลผ่องนภา แสนเพลินอุราเหลือลืม เมื่อจบท่อนที่ 3 ต่อมาเมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ อธิบายให้ทราบว่าจะต้องแต่งท่อนที่ 4 เพิ่มเติมอีก จึงได้เพิ่ม หมู่มวลวิหคบินผกมาแต่รังนอน เฝ้าเชยชิดช้อนลิ้มชมบัวบาน ส่วนตอนที่ว่า ฟังเสียงบรรเลง ดังเพลงขับขาน สอดคล้องกังวาน ซาบซ่านจับใจ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงกรุณาเพิ่มเติมให้”

เนื้อ ร้องภาษาไทยของเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่งพรรณนาถึงความงามของธรรมชาติยามรุ่ง อรุณ ทำให้รู้สึกถึงความสดชื่น รื่นรมย์ และความหวังในวันใหม่ ส่วนเนื้อร้องภาษาอังกฤษที่ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา เป็นผู้ประพันธ์โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงช่วยแก้ไขให้ เนื้อหาในคำร้องภาษาอังกฤษใกล้เคียงกับภาษาไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำออกบรรเลงครั้งแรกโดยวงสุนทราภรณ์ในงานสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่ง ประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2489

Near Dawn
Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej
Lyric: Prof. Thanpuying Nopakhun Thongyai Na Ayudhya

How calm the world
All nature slumbers still.
Grey is the sky, no breezes blow.
O’er roof and hill,
The moon now low
Sends gentle light
To guard below.

Cocks waking call ‘cross the field
Grey shadows flee;
Stars disappear.
But, here I lie sleepless, dear.
Bats flutter home.
The dawn is near.

Gold streaks the east.
Its glow, the roofs reflect,
Dark leaves turn green
And Flow’rs with light, are deck’d.
Now birds and babes wake to play.
The world expectant waits.
To greet a bright, new day.

Dew fresh and cool
The town awakes from sleep
Its throb I hear : car, speeding, hum.
Of love and hope, the birds sing, dear
Come, rise, don’t mope,
The dawn is near.



ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ "เช้านี้ที่ไกลกังวล"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น