วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

เบต้าแคโรทีน ::: สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สวัสดีตอนเที่ยงๆ วันพฤหัสบดีค่ะ
อยากจะบอกว่าคิดจะทำ Mixpod หลายรอบล่ะ จะได้ไม่มีพวก Youtube มาเกะกะ แต่ว่ายังไม่เวลาปรับปรุงเพจเล้ยยยยยยยยยยย เสียดายบ้านคนเขียนไม่มีคอม ไม่งั้นแม่อัพแหลกค่ะ 55555555+ ที่เห็นมีแต่เรื่องดนตรี กรุณาอย่าสงสัย และอย่าเพิ่งเอียนเลยนะคะ คือเรื่องของเรื่องคนเขียนมักจะอยู่คนเดียว (ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน) และมักจะเครียดบ่อยๆ เลยมักจะฟังแต่เพลง พอมีเวลาว่างอัพบล็อกแต่ละที หัวมันก็เลยมีแต่เพลง 5555+ จริงๆแล้วคนเขียนมีบทความที่น่าสนใจมากมายที่มีโอกาสได้อ่านแล้วถ่ายเอกสารกลับมาบ้าง ซื้อมาบ้าง แต่อย่างที่บอก บ้านมันไม่มีคอม เลยไม่มีโอกาสได้เขียนขึ้นบล็อกสักที นอกจากนั้นยังมีเทปเสียงสารคดีประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งยังไม่มีเวลาแกะออกมาเป็นตัวหนังสือเ้ลย (กะว่าจะทำช่วงปิดเทอม) ก็เลยอยากจะบอกท่านผู้อ่านว่าใจเย็นๆสักนิดนะคะ อย่าโกรธคนเขียนเลย....ขอร้อง TTTTTTTTTTT^TTTTTTTTTTTT

เอาละค่ะ มาเข้าบทความดีๆกันดีกว่่า แน่นอนว่าโดนวิจารณ์มาแล้ว บทความนี้คงไม่เขียนเกี่ยวกับดนตรี...ฮา แต่วันนี้จะเขียนเกี่ยวกับ "เบต้าแคโรทีน" ที่ได้พูดถึงกันในคาบวิชาภาษาฝรั่งเศสนะคะ ^^

"เบต้าแคโรทีน" (Beta-carotene) เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ(โปรวิตามินเอ) มี บทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้งนี้ โดย ปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตาม ปริมาณที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ(แอนตี้ออกซิเดนท์) ด้วย

สำหรับขนาดรับประทานของวิตามินเอเพื่อรักษาสุขภาพโดยทั่วไปคือ 5,000 หน่วย สากล(IU) ซึ่งเทียบเท่ากับเบต้าแคโรทีน 3 มิลลิกรัม และสำหรับปริมาณที่สม เหตุสมผลของเบต้าแคโรทีนที่แนะนำให้รับประทานต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็ง แรงคือ 15 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทานเพื่อหวังผลในรักษาจะต้องได้รับใน ปริมาณมากกว่านี้

เบต้าแคโรทีนมีในพืชสีเหลืองและสีส้ม ทั้งแครอต ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าว โพดอ่อน แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุก และผักที่มีสีเขียวอย่างบร็อกโค ลี่ มะระ ผักบุ้ง ต้นหอม ผักคะน้า ผักตำลึง เป็นต้น (เหตุที่มีสีเขียวเพราะ สีของเบต้าแคโรทีนถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบัง)

ประโยชน์ที่เบต้าแคโรทีนให้แก่ร่างกายคือ

1.ดูแลรักษาผิวพรรณอันเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบว่า อนุมูลอิสระมีผลต่อเราแล้วหรือยัง เช่น ผิวเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ผ่องใส

2.ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อ ร้าย การลดปริมาณอนุมูลอิสระเท่ากับลดความเสี่ยงของมะเร็ง ทั้งยังพบว่าเบ ต้าแคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ ให้ทำ งานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง

3.บำรุงสุขภาพของดวงตา เบต้าแคโรทีนเมื่อโดนย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามิน เอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอฟซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความ สามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลด ความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย

4.ชะลอความแก่ เบต้าแคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่

เบต้าแคโรทีนนับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญสำหรับสุขภาพของมนุษย์ อย่างไร ก็ตามไม่พบว่ามีรายงานของการขาดเบต้าแคโรทีนเลย แม้ว่าการวิจัยจำนวนมากจะ ระบุว่า การเสริมด้วยเบต้าแคโรทีนใช้ในคนที่มีอาการขาดวิตามินเอ แต่ก็ยังคง ไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่แสดงถึงอาการขาดเบต้าแคโรทีน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และนัก โภชนาการแนะนำว่าเราควรรับประทานเบต้าแคโรทีนเข้าสู่ร่างกายโดยการบริโภคผัก สดและผลไม้สด

สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายจากเบตาแคโรทีน ขณะนี้ยังไม่ พบ แม้จากการวิจัยพบว่าวิตามินเออาจเป็นพิษได้ถ้ารับประทานในปริมาณที่สูงก ว่า 25,000 หน่วยสากล(IU) ต่อวัน แต่ไม่พบว่าเบต้าแคโรทีนมีความเป็น พิษ เมื่อรับประทานในปริมาณสูง ส่วนการมีปฏิกิริยากับสารอื่นไม่พบรายงานว่า มีปฏิกิริยาของเบต้าแคโรทีนกับยาสมุนไพร รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ

จาก รู้ไปหมด ข่าวสด


http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=10254

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น