วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

โอกาส คำที่ทุกคนอ่านได้เหมือนกัน แต่มีไม่เท่ากัน โดย Kimura Cantabile

โอ้โห...บล็อกรูปแบบใหม่ ไม่ค่อยคุ้นเลยแฮะ -*-

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่าน วันนี้คนเขียนขอนำเสนอ บทความที่(รุ่น)พี่ชาย เป็นผู้เขียนอีกสักครั้ง จริงๆก็ไม่เชิงบทความหรอกค่ะ เป็นสเตตัสที่เขาโพสต์ไว้หน้าเฟซบุ๊ค ซึ่งเห็นว่าน่าสนใจดีเลยนำมาแบ่งปัน

 

 หลังจากที่ได้ดูเทปนี้...ก็เห็นด้วยกับน้องธนัช เห็นเขาตั้งแต่เด็กๆเล็กละ แต่อย่างนึงอยากให้รู้ว่า "เด็กไทยทุกคนไม่ได้ไม่เก่ง และเด็กไทยทุกคนไม่ได้โง่ ทุกคนมีความอัจฉริยะและพรสวรรค์อยู่ในตัวเอง"
 แต่ขาดแรงสนับสนุนจากครอบครัวและเรื่องของการเงิน
เด็กทุกคนมีพัฒนาการที่ดีได้ ถ้าเราได้รับโอกาสและการสนับสนุน
ตอนเด็กๆ กระผมก็เป็นแบบน้องธนัชนะ พูดได้หลายภาษา + ดนตรีก็เล่นได้
ก็เพราะตัวเองได้รับการสนับสนุนมากกว่าชาวบ้าน จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์
แถมสมัยก่อนเทคโนโลยีไม่ได้ก้าวไปไกลแบบนี้อีก
การหาความรู้ก็ยิ่งยากกว่าด้วยเลย คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงิน
แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรเลย (มัวแต่มานั่งดูดกินผลประโยชน์กันเอง)
จะให้เด็กไทยมันอัจฉริยะกันทุกคนเหมือน ญี่ปุ่น เหมือน จีน เหมือน อเมริกาได้ไงล่ะ?
 ทำไมเขาทำได้ล่ะ ประเทศเหล่านั้น?
 ถ้าลูกอยากเรียนดนตรี พ่อแม่คนไทยจะบอกว่า เรียนไปทำไม เปลือง?
ลูกอยากเรียนศิลปะ ก็บอกว่า วาดๆขีดๆเอาเองก็ได้
แล้วอิหรอบนี้อยากให้ลูก "อัจฉริยะ" เนี่ย ถ้าไม่ให้โอกาสเขาค้นหาตัวเอง
เขาก็จบลงที่"ความธรรมดา"เหมือนอย่างที่เรารู้ๆกัน
และเรื่องของการ "ไม่มีเงิน" มันก็ปัญหาใหญ่เหมือนกัน
ระดับการที่สามารถเรียนไวโอลินได้ พ่อแม่ก็คงต้องมีเงินพอสมควร
ทำให้ค่านิยมการเล่นไวโอลินตกไปอยู่ในภาพพจน์ของ "ลูกคนรวย"
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ดนตรีถูกสร้างมาเพื่อทุกคน ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อ "คนรวย"
ดังนั้น โครงการดนตรีแบบฟรีๆที่ผมทำอยู่ทุกๆวันนี้ เป็นการแย้งกับความคิดของสังคมที่ว่า
"ดนตรีพวกนี้เป็นดนตรีของคนรวย" สำหรับผมแล้ว "ดนตรีไม่มีวรรณะ ไม่มีรวย ไม่มีจน"
จะมีก็แค่ "คนที่มีหัวใจที่จะฟังมากกว่าจะมานั่งโวยวายโต้เถียงและรื่นรมย์กับเสียงที่เกิดขึ้น" มากกว่า

------------------------------------------------

 หลังจากอ่านข้อความข้างต้นแล้วทำให้คนเขียนเกิดสงสัยในคำว่า

"ตัวเองได้รับการสนับสนุนมากกว่าชาวบ้าน"
ว่าพี่เขาได้รับการสนับสนุนอย่างไรบ้าง เลยไปถามเขาตรงๆ แล้วเขาก็ตอบมาว่า...
 การสนับสนุนมีทั้งจากคนรอบข้าง ไม่ปิดกั้นโอกาส ไม่บั่นทอนจิตใจ ช่วยกันผลักดัน เสริมโอกาสด้วยการเงินสนับสนุน และเวลา ให้ความเข้าใจไม่ขัดขวาง
ที่บ้านแม่ก็ไม่เคยห้าม เพราะแม่พี่ชอบร้องเพลง รักเสียงเพลง แม่ส่งเสริมมาตั้งแต่เด็กละ
เป็นเเฟนวิทยุ แล้วก็ตีสนิทกับดีเจ คลื่นวิทยุท้องถิ่นด้วยซ้ำนะ
พี่กะน้องสาว (พี่ Yumiko)ไม่เคยร้องเพลงเพี้ยนเลย เพราะอยู่กับแม่เนี่ยแหละ
แม่ฟังเพลงบ่อย พ่อก็บ้าเครื่องเสียง อยากเรียนดนตรีอยากทำไร ทำไป เพราะเขาเห็นผลงานเราไง
ว่าเราไมไ่ด้เล่นๆ เราจริงจัง คนรอบข้างก็ไม่เคยมีใครห้าม มีแต่ส่งเสริมอยากทำอะไรก็ทำ
ยอมรับ สนับสนุน แล้วก็เข้าใจเห็นด้วย มีอะไรก็คุยกันได้ตลอด มีผู้ใหญ่ใจดีรับฟังเสมอ
ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร ไปเรียนก็ได้รับการยอมรับในทักษะและความสามารถ
ชีวิตเหมือนได้เปรียบกับชาวบ้าน เพราะ เราวิ่งเข้าหาโชค แล้วโชคก็วิ่งเข้าหาเรา
เหมือนที่พี่บัณฑิต (คุณบัณฑิต อึ้งรังษี วาทยกรไทยระดับโลก) บอกไว้จริงๆนั่นแหละ
ชีวิตที่ทำตัวเองให้เอื้อกับโอกาส อะไรๆมันก็ดูง่ายไปหมด

อ่านแล้วคนเขียนอยากจะกรีดร้องเป็นภาษาอารเมค ทำไมมันช่างตรงข้ามกับชีวิตข้าพเจ้าเช่นนี้ TTT^TTT คนเขียนน่ะเรอะ...เฮอะ....
เกิดมาก็มีปมด้อยประจำตัวอยู่แล้ว ก็พูดกันตรงๆว่ามี "อะไรบางอย่าง" ที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ

ยิ่งถ้าเทียบเป็นข้อๆ กรณีเดียวกับพี่เขานะ เฮ้อ....... ไปดูกันดีกว่า...

พ่อก็ทิ้งไปตั้งแต่ 5 ขวบละ แม่เห็นคนเขียนฟังเพลงบรรเลงไม่ได้เลยนะ ต้องบ่น ต้องทะเลาะ

บอกว่า "ฟังทำไม ฟังไม่เห็นจะรู้เรื่อง" ก็เข้าใจนะคะ ว่ารสนิยมมันต่างกัน แต่ก็ไม่ควรจะขัดขวางกันนี่นา 

เวลาจะฟังทีไร ก็จะเปลี่ยนช่องบ้างละ เหน็บแนมบ้างละ ทำให้ไม่มีความสุขในการฟังเอาซะเลย รายการพวกนี้ในฟรีทีวีเมืองไทยมันก็น้อยอยู่แล้ว จะขัดขวางกันไปถึงไหน TTT^TTT

อยากเล่นไวโอลินก็หาว่ากระแดะ ทำตัวเป็นไฮโซ เล่นของเล่นคนรวย พอมาที่โรงเรียน ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนนิสัยไม่ดี ทำให้ใครๆไม่ยอมรับ ไม่พอใจ ในตัวคนเขียน จะมีก็ไม่กี่คนที่ยอมรับ และให้โอกาส แต่ก็ขอพูดตรงๆ บางทีก็แรงเกิ๊นนนนนนนนนนนน

และบางเรื่องก็นะ...ต่อให้เป็นคนที่ให้โอกาส แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี

คนเขียนไม่เข้าใจ การเล่นดนตรีมันผิดตรงไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน???

ในเมื่อเห็นถึงความแตกต่างมากมายแล้ว คนเขียนจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่เขาถึงเป็นคนที่เก่งได้มากขนาดนี้
คนที่กำลังอ่านบทความนี้ อาจจะคิดว่า คงเป็นเพราะเขารวยน่ะสิ อย่างนั้นอย่างนี้
แต่คนเขียนขอบอกตรงนี้เลยนะคะ ว่าเขาไม่ได้รวยเลย ออกไปทางจน เคยไม่มีจะกิน ไม่ต่างจากคนเขียน (ไม่เชื่อไปถามเขาได้) แต่ทุกวันนี้เขาได้มีชีวิตอยู่อย่างสบาย เป็นคนมีความสามารถ มีความเก่งในหลายๆด้าน เป็นเพราะว่าเขามีความพยายามที่จะผลักดันตัวเอง และได้รับโอกาสที่เหมาะสม แต่คนเขียนไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้น... TT^TT

พูดถึงคำว่า "โอกาส" นึกถึงคำเทศน์ ที่ อ.ชัยวิทย์ ผิวเรืองนนท์ ศิษยาภิบาล คริสตจักรความหวังนครปฐมเคยพูดติดตลกไว้ว่า...
 โอกาสเนี่ยนะ มันมีปีก บินได้เร็วมวาก มาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว ยิ่งกว่าประกันภัย หลายๆคนพยายามจะจิก จะจับโอกาสไว้เมื่อตอนมันกำลังจะไปแล้ว คิดจะดึงผมตัวโอกาสไว้ แต่เสียใจ โอกาสมันหัวล้านด้วย คนบางคนถึงคว้าโอกาสไว้ไม่ทัน เท่านั้นยังไม่พอ ตัวมันก็ลื่นมวาก เพราะทาน้ำมันเอาไว้ บางคนถึงจะคว้าไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ทำมันหลุดมือ แต่มีวิธีเดียวที่เราจะได้รับโอกาส คือทำตัวให้เหมาะสมกับกับมัน ทำชีวิตให้ดีที่สุด แล้วพระเจ้าจะประทานโอกาสให้เอง ^ ^

 ความพยายามอย่างมาก + โอกาส = ความสำเร็จ
ก็เลยคิดว่า...สงสัยเป็นเพราะตัวเองยังทำตัวไม่ดี ยังพยายามไม่มากพอ จึงไม่ได้รับโอกาสนั้นๆ สุดท้าย...ก็ต้องเริ่มใหม่ เอาใหม่ เพื่อหวังว่าสักวัน พระเจ้าจะประทานโอกาสดีๆแบบนั้นให้กับคนเขียนบ้าง

ขอขอบคุณพิเศษ : พี่ Kimura Cantabile ค่ะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น