วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ดนตรีคลาสสิคไร้ขีดจำกัด Q&A: ดร. ทวีเวท ศรีณรงค์





สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่าน คนเขียนกลับมาอีกครั้งด้วย เรื่องดนตรีคลาสสิคอีกสักรอบ คราวนี้พอดีคนถูกสัมภาษณ์ เขาโพสต์ลงบน Facebook ส่วนตัว เลยขออนุญาตนำมาแบ่งปัน ^^ (ชื่อ URL ก็ประกาศความเป็นแฟนคลับขนาดนั้น จะไม่โพสต์ก็กระไรอยู่นะคะ อิอิ ^^)

ดร. ทวีเวท ศรีณรงค์ หรือ ดร. เป้ พี่ชายคนโตจากสมาชิกวง Vie Trio เขาเพิ่งสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกด้านไวโอลินที่ Brook University, New York และเป็นคนไทยคนแรกที่จบการศึกษาสูงสุดทางด้านนี้ เขาบอกว่า“ดนตรีคลาสสิกจะทำให้คุณละเอียดอ่อน” และจะจรรโลงจิตใจได้อย่างไร ต้องมาฟังกันต่อ 


LifestyleAsia: หลังจากที่เรียนจบปริญญาเอกด้านไวโอลินแล้ว มีแผนการจะนำมาใช้ต่ออย่างไรคะ 
ดร.เป้: หลายคนมองว่าเรียนปริญญาเอก เพื่อที่จะเป็นครู แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ความยากของมันไม่ได้อยู่ที่ต้องไปสอนที่มหาวิทยาลัย เพราะสอนคนได้ไม่กี่คน แต่ถ้าทำเพลงและแสดงสดก็สามารถสอนคนได้ทั้งประเทศ ตอนนี้วงเราไปเล่นที่หลายประเทศ แต่สื่อไทยอาจจะไม่รู้ เพราะไม่ใช่ดนตรีในกระแส ซึ่งก็ไม่ได้น้อยใจหรืออะไร แต่ก็จะทำต่อไปให้ดี เอาประสบการณ์การเล่นคอนเสิร์ตมาแชร์ให้คนไทยได้ฟังกัน  โดยที่ทำให้คนฟังต้องไม่รู้สึกว่าดนตรีคลาสสิกเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญมากครับ อย่างเช่น เอาดนตรีคลาสสิกมาเล่นกับดีเจ หรือเอาดนตรีคลาสสิกมาเล่นกับแนวดนตรีอย่างอื่น เพื่อแสดงให้คนเห็นว่าเครื่องดนตรีที่คนคิดว่าเล่นได้แต่หวานเย็นนั้นมันไม่ใช่แบบนั้น 
LifestyleAsia: ดนตรีคลาสสิกมีข้อดีกับคนฟังอย่างไรบ้างคะ  
ดร.เป้: ดนตรีคลาสสิกจะทำให้เป็นคนละเอียดอ่อน ทำไมเราถึงได้ยินว่าให้เด็กฟังดนตรีคลาสสิกแล้วจะฉลาด จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอกครับ แต่เป็นเนื้อของข้างในดนตรีที่มีความละเอียด เพลงบรรเลงจะทำให้คุณรู้จักตัวตนของตัวเอง เพราะว่าเป็นเพลงที่ไม่ได้กำหนดโดยเนื้อร้อง คนที่เข้าใจว่าเพลงบรรเลงต้องปีนบันไดฟังนั้นเข้าใจผิดไปแล้ว เพราะมันไม่ต้องเข้าใจอะไรเลย เราไปรับความรู้สึกตามประสบการณ์ของเรา มันทำให้คุณเป็นนักคิด ทำให้คุณมีความละเอียดอ่อนกับชีวิต คุณฟังดนตรีที่ละเอียด คุณก็เป็นคนละเอียด คุณฟังดนตรีที่ชุ่ย คุณก็เป็นคนที่ชุ่ย 
LifestyleAsia: แล้วอะไรคือดนตรีที่ชุ่ยคะ 
ดร.เป้: ผมไม่ได้บอกว่าดนตรีประเภทอื่น ที่ไม่ใช่ดนตรีคลาสสิกเป็นดนตรีที่ชุ่ย แต่เป็นดนตรีที่ไม่ได้ถูกสร้างสรรค์มาด้วยความคิด ถูกสร้างสรรค์มาด้วยการลอกมากกว่า ไม่ได้ตั้งใจในการสื่ออะไรใหม่ขึ้นมา เช่น ถ้าเป็นเพลงจังหวะสนุกสนาน ถึงแม้ว่าเราไม่เข้าใจว่าเขาร้องว่าอะไร แต่จังหวะของมัน ทำให้คนฟังรู้สึกอยากเต้น หรือถ้าเป็นเพลงเพราะช้าๆ จะสามารถกินใจเราได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ถูกทำมาอย่างประณีตมันก็จะเป็นดนตรีที่ชุ่ย 
LifestyleAsia: นอกจากดนตรีคลาสสิกแล้วชอบฟังแนวเพลงอื่นอะไรบ้างคะ 
ดร. เป้: ผมชอบเพลงอิเลคโทรนิค ซึ่งเป็นแนวที่แตกต่างกันมาก ผมไม่ค่อยชอบดนตรีสด เพราะผมเล่นเป็นประจำอยู่แล้ว ผมจึงชอบรีแลกซ์กับดนตรีทีเป็นเทคโนอิเลคโทรนิคมากกว่า เพราะมันได้ความสนุกอีกแบบ ดนตรีดีๆ มีทั่วไปหมด ผมจึงฟังทั้งแจ๊ส ลูกทุ่งก็ฟัง ขอให้ดนตรีมีคุณภาพมันก็สามารถไปอยู่ที่ไหนก็ได้ 
LifestyleAsia: เวลาแต่งเพลง มีแรงบันดาลใจมาจากอะไรบ้างคะ 
ดร. เป้:  แรงบันดาลใจมาจากหลากหลาย มีตั้งแต่คิดคอนเซ็ปต์ว่าต้องการอะไร เช่น ต้องการสื่อว่าดนตรีคลาสสิกสามารถเข้ากับอะไรก็ได้ ผมก็จะหยิบยืมเอาดนตรีคลาสสิกมามิกซ์กับดนตรีสมัยใหม่ หรือต้องการสื่อว่าดนตรีคลาสสิกเข้ากับเพลงลูกทุ่งได้ ก็เอาเพลงลูกทุ่งที่คุณรู้จักมาผสมผสานกับดนตรีคลาสสิก หรือแม้แต่บางทีผมนอนฝัน แล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็เอามาเขียนเป็นโน้ต พอเขียนเสร็จแล้วก็หลับ แล้วตื่นขึ้นมาดูอีกที แล้วออกมาเป็นเพลงที่ขายกันอยู่ในอัลบั๊มใหม่ เรื่องขีดจำกัดของจินตนาการมันไม่มีหรอกครับ ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะไปหาแรงบันดาลใจมาจากที่ไหน แล้วถ้าไม่มีจะไปหามันได้ที่ไหน 
ดนตรีคลาสสิกของดร.เป้ จึงไม่หยุดนิ่งเฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นเพลงคลาสสิกที่ร่วมสมัย และไม่มีขีดจำกัดในเรื่องจินตนาการ




อิริยาบถสบายๆกับน้องสาว ในชุดครุยปริญญาเอก ^^




ที่มา : http://th.lifestyleasia.com/th/features/more/%E0%B8%94%E0%B8%A3.-%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97-%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C

ขอบคุณพิเศษ / เอื้อเฟื้อภาพ : ดร. ทวีเวท ศรีณรงค์ 



วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

BCO วงออร์เคสตร้าเพื่องานการกุศล ‘Seeing is Believing –ให้ดวงตา ให้ชีวิต’

สวัสดีค่ะ วันนี้คนเขียนขอนำเสนอสิ่งที่ชอบนะคะ นั่นก็คือวงออร์เคสตร้านั่นเอง ^^ พอดีคนเขียนได้มีโอกาสรู้จักกับคนที่ได้ไปเล่นในวง Bangkok Charity Orchestra ในคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 14 ตุลาคม 2555 นี่เอง จึงอยากจะนำเสนอเรื่องราว เกี่ยวกับคอนเสิร์ตนี้ค่ะ ^^

Bangkok Charity Orchestra- Gala Concert ที่มอบความประทับใจและบทเพลงอันไพเราะสุดๆแก่ผู้ที่มาร่วมชมกันอย่างคับคั่ง งานนี้นอกจากได้เหล่าศิลปินคุณภาพ มาร่วมขับร้องนำทีมโดย รัดเกล้า อามระดิษ, ฝ้าย Am Fine, ครูกานต์ จันทอง จากบ้าน AF แล้วยังได้วาทยากรระดับแถวหน้าอย่าง จุลยุทธ โล่โชตินันท์ ผู้ก่อตั้งวง บางกอกแชริตี้ ออเคสตร้า (Bangkok Charity Orchestra)มารับหน้าที่วาทยากรตลอดคอนเสิร์ต พร้อมแขกรับเชิญที่ขึ้นร่วมร้องเพลงอีกมากมาย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่ผ่านมา

กับบทเพลงไพเราะจากศิลปินระดับโลกที่ถูกนำกลับมาบรรเลงและถ่ายทอดได้อย่างละเมียด อาทิ Phanthom Of The Opera, Think of Me, Moon River, I Dreamed a Dream, The Greatest Love of all และ อีกหลากหลายอารมณ์เพลงที่แสนดื่มด่ำในบรรยากาศอันอบอุ่น อิ่มใจ และอิ่มบุญไปพร้อมๆกัน ซึ่งคอนเสิร์ตในครั้งนี้ยังมอบรายได้ให้แก่โครงการ ‘Seeing is Believing –ให้ดวงตา ให้ชีวิต’ ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่มธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เพื่อดำเนินการระดมทุนสนับสนุนการป้องกันตาบอด และ ช่วยให้มีการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคตา ตลอดจนการรักษาดวงตาและให้การผ่าตัดแก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อกระจก แบบไม่หักค่าใช้จ่าย อีกด้วย




บรรยากาศในงานค่ะ











คุณรัดเกล้า อามระดิษ




คุณจุลยุทธ โล่โชตินันท์ (วาทยกร)











พี่คนนี้ถึงแม้จะพิการทางสายตา แต่ดีกรีปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหิดล เชียวนะคะ ^^ 


ฝ้าย วง แอมไฟน์










***********************************************************************



ขอขอบคุณพิเศษ / เอื้อเฟื้อภาพ : คุณ Kimura Cantabile